ดื่มด่ำไปกับภูมิทัศน์แห่งแสงของมาดริด ณ ใจกลางเมือง ต่อด้วยชื่นชมสามเหลี่ยมแห่งวัฒนธรรมแหล่งมรดกโลก UNESCO ของมาดริดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษด้วยการท่องเที่ยวเพียงครึ่งชั่วโมง เดินทางจากเมืองแห่งยุคกลาง Alcalá de Henares ไปจนถึงพระราชฐาน San Lorenzo de El Escoria และจากพระราชวังหลวง Aranjuez ไปยังป่าอันเงียบสงบของ Hayedo de Montejo
มาดริดมีร้านอาหารเก่าแก่อายุนับศตวรรษอยู่มากมาย รวมถึงร้านอาการที่เก่าแก่ที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน เป็นสถานที่ที่รวมรวบความหลากหลายของประสบการณ์อาหารเอาไว้ มีทุกอย่างที่คุณต้องการตั้งแต่ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์กว่า 28 แห่งที่รวมแล้วกว่า 36 ดวง ไปจนถึงเสน่ห์เฉพาะทางอย่างร้านขายช็อกโกแลตชื่อดัง (chocolaterías), ร้านขายขนมหวาน (bombonerías), และร้านขายขนมอบ (pastelerías) หรือหากต้องการลิ้มลองอาหารอันแสนสร้างสรรค์จากวัตถุดิบในท้องถิ่นที่น่าทึ่ง ร้าน Montia ก็นับว่าเป็นร้านที่ไม่ควรพลาด ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมอันแสนงดงามและเรื่องราวของกรุงมาดริดผ่านทุกคำที่แสนอร่อย
เดินทางออกจากเมืองเพียงหนึ่งชั่วโมง คุณก็สามารถเดินเล่นในไร่องุ่นขนาด 9,000 เฮกตาร์ของโรงบ่มไวน์ 51 แห่งที่มีประวัติศาสตร์การผลิตไวน์ยาวนานกว่า 900 ปี หรือถ้าต้องการลิ้มลองอาหารเรียกน้ำย่อย tapas และ pinchos พร้อม ๆ กับดื่มเบียร์พื้นเมือง Mahou รับประกันเลยว่าคุณจะไม่มีคำว่าผิดหวังที่มาดริดเมืองหลวงของสเปน
มาดริดเป็นต้นกำเนิดของระบำฟลาเมงโกและสถานที่แสดง(tablao) มาดริดได้หล่อเลี้ยงรูปแบบศิลปะที่ได้รับการยอมรับจาก UNESCO นี้มานานหลายศตวรรษ ในช่วงทศวรรษที่ 1950 มาดริดได้ปรับเปลี่ยนระบำฟลาเมงโกให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ให้โอกาสแก่นักเต้นทั้งมือใหม่และที่มีชื่อเสียงได้แสดงใน Tablao อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมโรงละครกว่า 200 แห่ง รวมไปถึงโรงละคร Real ที่ได้รับรางวัลโรงละครโอเปร่าที่ดีที่สุดในโลกจาก International Opera Awards ประจำปี 2021 อีกด้วย ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับโลกของละครเพลงถนน Gran Vía “บรอดเวย์” อันโด่งดังของมาดริด โอเล่!
ที่ paseo del arte ในมาดริด คุณจะสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ Prado พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ Thyssen Bornemisza และพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ Reina Sofia ได้ในระยะที่สามารถเดินถึงกัน ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับผลงานที่ยอดเยี่ยมของ Picassos, Goyas, Miros และอื่น ๆ มากมายหลายพันรายการ พร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่กว่า 250 แห่ง ละถ้ายังไม่จุใจคุณมากพอ มาดริดยังมีสตรีทอาร์ตอันน่าทึ่งอยู่ทั่วทุกมุมตึก
เดินทางย้อนกลับไปเยี่ยมชมศตวรรษที่ 18 และค้นพบตำนานกษัตริย์แห่ง Patones เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันแปลกประหลาดเมื่อเดินชมสถาปัตยกรรมหินชนวนสีดำและถนนที่ถูกปูด้วยหิน หรือแวะเยี่ยมชมเมือง Manzanares el Real ที่ซึ่งคุณจะสามารถดื่มด่ำไปกับธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และกีฬากลางแจ้ง ชื่นชมปราสาท Mendoza ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี หรือจะเพลิดเพลินกับเหล้าอะนิชและอาหารมาดริดแบบดั้งเดิมใน Chinchon เพลิดเพลินไปกับการเดินทางข้ามศตวรรษด้วยระยะทางสั้น ๆ จากตัวเมือง
หนึ่งในสิ่งที่พลาดไม่ได้ในมาดริด คือการชอปปิ้ง ทั้งร้านค้าบูติกเล็ก ๆ ร้านค้าเก่าแก่นับศตวรรษ และตลาดแสนเก๋ ครบครันด้วยงานระดับโอต์กูตูร์ที่เน้นรายละเอียดและความใส่ใจ ในทุก ๆ ปีจะมีการจัดงาน Mercedes-Benz Fashion Week ที่จะดึงดูดนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลกมารวมตัวกัน เพลิดเพลินไปกับเส้นทางการชอปปิ้งที่คัดสรรมาอย่างดี สร้างประสบการณ์การชอปปิ้งที่ดีที่สุดในมาดริด สามารถดูสถานที่ชอปปิ้งได้ที่นี่!
มาดริดเป็นสถานที่ที่หลงไหลในเรื่องของกีฬา เป็นบ้านของสโมสรเรอัลมาดริดและสสนามกีฬาริยาดแอร์ เมโทรโปลิตาโน อีกทั้งยังมีสนามกอล์ฟมากกว่า 20 แห่งที่ออกแบบโดยนักกอล์ฟระดับตำนาน เป็นสถานที่จัดการแข่งขัน Madrid Mutua Tennis Open ซึ่งเป็นรายการ ATP masters 1000 และ WTA 1000 อีกทั้งมาดริดยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงรุกอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ ไม่ว่าจะขี่ม้า เดินป่า ปั่นจักรยาน ถ้าคุณเป็นแฟนกีฬาตัวจริง ไม่มีทางเลยที่คุณจะแพ้ในมาดริด
มาดริดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 131 เขตพื้นที่ (ย่าน) แต่ละแห่งล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัว ตั้งแต่ย่าน Salamanca สุดหรูที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารระดับ high-end ไปจนถึงย่าน La Latina ที่มีอายุย้อนไปถึงปี 1499 ที่ที่คุณจะได้พบกับตลาดนัด El Rastro อันโด่งดัง และเป็นพื้นที่ที่มีบาร์ทาปาสหนาแน่นที่สุดในมาดริด
La Latina ย้อนกลับไปในปี 1499 นี่เป็นสถานที่ที่คุณจะสามารถเดินทางไปยังตลาด El Rastro หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในย่านนี้ และยังเป็นที่รู้จักในฐานะพื้นที่ที่มีบาร์ทาปาสหนาแน่นที่สุด
Sol-Gran Via เป็นย่านบอร์ดเวย์ของมาดริด เต็มไปด้วยห้างขนาดใหญ่ โรงแรม โรงละคร และเป็นจุดศูนย์กลางของการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการพักผ่อนในมาดริด
Barrio de Salamanca เป็นที่ตั้งของถนน Serrano ที่โด่งดังในด้านร้านอาหารและแบรนด์ระดับ high-end เป็นสถานที่ที่หรูหราไร้ที่ติที่สุดของกรุงมาดริด
Malasaña เป็นศูนย์กลางของความฮิปในมาดริด อบอวนไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะและเสียงดนตรี บาร์และคลับเป็นที่นิยมอย่างมากในย่านนี้ และคุณก็ยังสามารถพบเห็นการนั่งดื่มตามท้องถนน บนระเบียงของ La Plaza del Dos de Mayo ได้อีกด้วย แม้ว่าจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก
Salesas เป็นย่านที่ทันสมัยที่สุดของกรุงมาดริด เป็นแม่เหล็กดึงดูดหอศิลป์ ร้านค้า concept stores และร้านบูติก ที่ย่านนี้คุณจะสามารถพบเจอกับแบรนด์แฟชั่นสเปนที่หลากหลาย เรียกได้ว่าถนนสายต่าง ๆ ในย่านนี้เป็นเหมือนแคทวอล์คเวทีเดินแบบในเมือง ผสมผสานไปด้วยกลิ่นอายของความคิดสร้างสรรค์ที่พบได้ตามร้านกาแฟ บาร์ค็อกเทล และร้านอาหารฟิวชั่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
El Retiro เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงมาดริด ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO โดยมีจุดเด่นต่างๆ เช่น Crystal Palace อันสง่างาม และอนุสาวรีย์ King Alfonso XII ที่สามารถมองเห็นทะเลสาบขนาดใหญ่สำหรับการพายเรือ บริเวณโดยรอบของสวนสาธารณะนี้ตั้งอยู่ติดกับหลายย่าน หลังจากใช้เวลาทั้งวันในสวนแล้ว บาร์ต่าง ๆ ใน Ibiza ก็เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์เช่นกัน
Lavapis เป็นหนึ่งในย่านที่เจ๋งที่สุดของมาดริด เต็มไปด้วยศิลปะ ที่ซึ่งอบอวนไปด้วยความอบอุ่นของกรุงมาดริด ย่านนี้มีความหลากหลายและมีความเป็นสากลอย่างมาก มีร้านค้าและคาเฟ่เล็ก ๆ รายล้อมอยู่ริมถนนสูงชันที่คล้ายเขาวงกต
ย่านอันแสนงดงาม Chamberi เป็นที่อยู่อาศัยของขุนนางในยุคศตวรรษที่ 19 ในปัจจุบันเป็นมีถนนชื่อดังอันแสนอบอุ่น บรรยากาศสบาย ๆ เช่น ถนน Calle de Ponzano เป็นสถานที่ลับ ๆ สำหรับการไปนั่งสังสรรค์ที่บาร์แบบคนท้องถิ่น ทั้งหมดนี้เป็นแค่หนึ่งในหลายเหตุผลที่ชาวต่างชาติมากมายเลือกที่จะอาศัยอยู่ที่นี่
มาดริดมีตัวเลือกที่พักระดับ high-end มากมาย นอกจากโรงแรมและอพาร์ทเมนท์หรูแล้ว คุณยังสามารถเข้าพักในพระราชวังเก่าแก่ โรงแรมที่ราวกับหอศิลป์ หรือจะพักในที่พักง่าย ๆ ที่มีร้านอาหารมิชลินสตาร์ในตัว ไม่ว่าจะแบบไหน ก็รับประกันได้เลยว่าคุณจะได้รับประทานอาหารแสนเลิศรส ทำเลที่น่าพึงใจ และบริการอันแสนอบอุ่นจากมาดริดอย่างแน่นอน
มาดริดมีการให้บริการการเดินทางทางอากาศใหม่ 44 เส้นทางในโซนเอเชียแปซิฟิก และอีก 26 เส้นทางในโซนตะวันออกกลางตั้งแต่ปี 2023 ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ไอบีเรียจะเปิดตัวเส้นทางบินระหว่างโดฮา กัวลาลัมเปอร์ และจาการ์ตาไปยังมาดริด และในเดือนตุลาคม 2024 จะมีการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และมาดริด ประเทศสเปน นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายสนามบินมาดริดเพื่อให้กลายเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย
